23 กุมภาพันธ์ 2554

ผลการเลือกตั้งประธานนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง

ผลการเลือกตั้งประนสภานักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง
บุคคลที่นักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกองให้ความสำคัญและไว้วางใจมากเรียงตามลำดับ จากผลการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ดังนี้
1. ด.ช.อัฐพล สุขผา ได้คะแนน 77
2. ด.ญ.พวงเพชร สุขสบาย ได้คะแนน 66
3. ด.ญ.กมลพรรณ สุขสบาย ได้คะแนน 50
4. ด.ญ.ทุติยา อุ้มดีไว้ ได้คะแนน 7
5. ด.ช.ทัศเทพ พูนสารยิ่ง ได้คะแนน 2





ผู้ที่ได้รับความไว้วางใจจะเป็นอย่างไรนั้น ต้องตืดตามผลงานในปีการศึกษาหน้าแล้วครับ

22 กุมภาพันธ์ 2554

กิจกรรมประชาธิปไตยของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง

วันนี้เวลา ๑๓.๐๐ น. ที่โรงเรียนบ้านเสกกองมีการเลือกตั้งประธานสภานักเรียนของโรงเรียนบ้านเสกกอง เพื่อเตรียมรับการดำเนินงานด้านกิจกรรมสภานักเรียนในปีการศึกษา ๒๕๕๔ โดยมีนางสาวกำไลทิพย์ คงย่งหาญและคณะกรรมการสภานักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกองเป็นผู้ดำเนินการเลือกตั้งในครั้งนี้ ในการนี้มีผู้สมัครรับเลือกตั้งจำนวน ๕ คน ดังนี้
๑. เด็กหญิงทุติยา อุ้มดีไวย์ นักเรียนชั้น ม. ๑
๒. เด็กหญิงกมลพรรณ สุขสบาย นักเรียนชั้น ม.๑
๓. เด็กหญิงพวงเพชร สุขสบาย นักเรียนชั้น ม.๒
๔. เด็กชายอัฐพล สุขผา นักเรียนชั้น ม.๑
๕. เด็กชายทัดเทพ พูนสารย่ง นักเรียนชั้น ม.๑

11 กุมภาพันธ์ 2554

ทัศนศึกษาตามนโยบายเรียน ฟรี......

โรงเรียนบ้านเสกกอง จัดทัศนศึกษาตามนโยบายเรียนฟรี ..... ที่เขื่อนลำปาว กาฬสินธ์ พิพธภัณฑ์สิรินธร ดูไดโนเสาร์ เตาล้านปี เอ้อ.. สัตว์ล้านปี ที่สูญพันธ์แล้วเด้อ ซิบอกฮัย...


02 กุมภาพันธ์ 2554

สงครามเวียดนาม

เรื่อง สงครามเวียดนาม

การที่ฝรั่งเศสเข้ามามีอำนาจในเวียดนามโดยใช้กำลังบังคับนั้น เท่ากับเป็นแรงผลักดันให้ชาวเวียดนามรวมตัวกันเพื่อต่อต้านอิทธิพลของชาติตะวันตก การต่อต้านนี้เริ่มด้วยการปล้นสะดมทรัพย์สินของชาวฝรั่งเศส ในขณะที่ระดับปัญญาชนนั้น นักศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยฮานอยได้เริ่มเรียนรู้ปรัชญาของนักคิดฝรั่งเศสเกี่ยวกับเสรีภาพ อิสรภาพ และความเสมอภาค ในระดับปัญญาชนได้มีการเคลื่อนไหวให้จัดตั้งพรรคการเมืองขึ้น เพื่อเรียกร้องสิทธิในการปกครองตนเองตามวิถีทางของระบอบประชาธิปไตย แต่กลับถูกรัฐบาลฝรั่งเศสปราบปรามอย่างรุนแรง การปราบปรามนี้ทำให้แนวทางการต่อสู้แบบคอมมิวนิสต์ได้รับความนิยมมากขึ้น ในปี ค.ศ. 1931 โฮจิมินส์ได้รวมตัวกันตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ เป็นพรรคแรกของเวียดนาม และพรรคได้ตั้งขบวนการที่จะต่อต้านฝรั่งเศสโดยเฉพาะ เรียกว่า เวียดมินห์ (Viet Nam Doc Lap Dong Minh Hoi) ก่อนที่ญี่ปุ่นจะพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นได้ช่วยเหลือให้ทำการรัฐประหาร เพื่อให้รอดพ้นจากอิทธิพลของฝรั่งเศส ญี่ปุ่นได้สนับสนุนให้จักรพรรดิเบาได๋เป็นประมุข แต่โฮจิมินห์ปฏิเสธ และได้เข้ายึดครองตังเกี๋ย และฮานอย ตลอดจนโคชินไชน่าบางส่วนไว้ เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง ฝ่ายสัมพันธมิตรกำหนดให้กองทัพจีนยึดดินแดนทางเหนือของเส้นขนานที่สิบหก ส่วนฝรั่งเศสและอังกฤษยึดดินแดนทางใต้ เวียดนามจึงถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยทางตอนบนอยู่ภายใต้อิทธิพลของจีนที่สนับสนุนโฮจิมินห์ (มีรัสเซียและประเทศคอมมิวนิสต์ให้การสนับสนุนร่วมด้วย) และตอนใต้อยู่ภายใต้อิทธิพลของฝรั่งเศสที่สนับสนุนจักรพรรดิเบาได๋ (มีสหรัฐอเมริกาและอังกฤษให้การสนับสนุน) พวกเวียดมินห์ยังคงต่อต้านรัฐบาลเบาได๋และฝรั่งเศส โดยได้รับความช่วยเหลือทั้งด้านทหารและอาวุธจากรัฐบาลจีนคอมมิวนิสต์ มีการต่อสู้กันอย่างหนักทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะการรบที่เดียนเบียนฟู ฝรั่งเศสต้องประสบกับความพ่ายแพ้ (เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1954) ทั้งสองฝ่ายได้ประชุมกันที่นครเจนีวา เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ค.ศ. 1954 ตกลงให้แบ่งเวียดนามออกเป็น 2 ส่วน คือ เวียดนามเหนือและเวียดนามใต้ ที่เส้นขนานที่ 17 องศาเหนือ และมีแม่น้ำเบนไฮเป็นพรมแดนธรรมชาติ สำหรับเวียดนามใต้ ชาวเวียดนามไม่ยอมรับจักรพรรดิเบาได๋ จึงได้ประกาศตั้งเป็นสาธารณรัฐเวียดนามที่มีประธานาธิบดีโงดินห์เดียมเป็นประมุข
ส่วนเวียดนามเหนือกลับมีรัฐบาลที่เข้มแข็ง โดยโฮจิมินห์เป็นผู้นำประเทศที่มีความสามารถซื่อสัตย์และรักชาติ สามารถแก้ไขปัญหาความอดอยาก พัฒนาอุตสาหกรรม โดยจีนและรัสเซียได้ให้ความช่วยเหลือทั้งด้านเงินทุนและผู้เชี่ยวชาญ แต่เวียดนามเหนือยังคงไม่ละเลิกอุดมการณ์ที่ต้องการรวมเวียดนามให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน การรบระหว่างเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้จึงยังคงมีอยู่ ในปี ค.ศ. 1965 สหรัฐอเมริกาให้ความช่วยเหลือเวียดนามใต้อย่างเต็มที่ แต่ก็ต้องลดกำลังพลลง เมื่อ ค.ศ. 1968 (ตามคำประกาศของประธานาธิบดีนิกสัน ซึ่งได้รับแรงกดดันจากสภาคองเกรสและประชาชนอเมริกัน) เพียงแต่ยังคงให้ความช่วยเหลือด้านอาวุธเท่านั้น เวียดนามเหนือได้ใช้กำลังบุกเข้าเวียดนามใต้อย่างหนัก จนในที่สุดเวียดนามใต้ต้องประสบกับความพ่ายแพ้ เมื่อวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 1975 เวียดนามเหนือประกาศรวมเวียดนามใต้เป็นประเทศเดียวกันอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ค.ศ.1976 ให้ใช้ชื่อประเทศว่า สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
มีเมืองหลวง คือ ฮานอย และมีรูปแบบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์