23 กุมภาพันธ์ 2555

ตำนานปราสาทบ้านพลวง


ตำนานปราสาทหินบ้านพลวง

(ฉบับย่อ )



กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีหญิงสาวคนหนึ่ง ไปขุดเผือกขุดมันที่ป่า รู้สึกหิวน้ำมาก ไม่มีน้ำดื่ม จึงเดินไปหาน้ำดื่ม พบน้ำเยี่ยวช้างซึ่งอยู่ในรอยเท้าช้าง นางจึงดื่ม หลังจากนั้นนางตั้งครรภ์โดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อคลอดออกมาเป็นลูกสาว  เมื่อเด็กหญิงโตขึ้นจนอายุได้ 7 ปี จึงเกิดความสงสัยว่าพ่อตัวเองเป็นใคร ตัดสินใจออกเดินทางตามหาพ่อ พบสัตว์ต่าง ๆ มากมาย เดินไปพบโขลงช้าง จึงถามพญาช้างว่าท่านคือพ่อของข้าใช่หรือไม่ พญาช้างจึงพิสูจน์ว่าเด็กหญิงเป็นลูกของตนหรือไม่ โดยการให้นางขึ้นไปอยู่บนหลังช้าง พญาช้างเผือกกระโดดโลดเต้น ถ้านางตกลงจากหลังช้าง แสดงว่านางไม่ใช่ลูกของตนเอง ผลปรากฎว่านางไม่ตกจากหลังช้าง  พญาช้างเผือกพาลูกสาวไปอยู่ที่ปราสาท แล้วตั้งชื่อให้นางว่า นางต็วลสตรา หรือนางผมหอม พญาช้างเผือกนำดอกไม้มาอบผมให้นางทุกวันตั้งแต่ยังเล็ก จนเป็นสาว ผมของนางมีกลิ่นหอมมาก พญาช้างเผือกบังคับลูกสาวให้อยู่ในปราสาท ไม่ให้ออกไปไหน ถ้าไม่ได้ยินเสียงพ่อร้องเรียกอบผมให้ ก็ห้ามออกไป

วันหนึ่งนายพรานไปพบพญาช้างเผือก กำลังเรียกลูกสาว เพื่ออบผมให้ จึงแอบดูเลยรู้ว่านางสวยสดงดงามมาก นายพรานเฝ้าดู  3 วัน จนสามารถจำคำพูดของพญาช้างเผือกที่ร้องเรียกลูกสาวให้ออกจากปราสาทได้ จึงนำเรื่องไปกราบบังคมทูลเจ้าชาย เจ้าชายจึงรับสั่งให้นายพรานไปนำตัวนางมา นายพรานวางแผนเรียกนางผมหอม ตามที่เคยได้แอบฟังมา และสามารถนำตัวนางผมหอมไปให้เจ้าชายได้ เจ้าชายได้จัดพิธีอภิเศกกับนางผมหอม

พญาช้างเผือกหาลูกสาวตนเองไม่พบ จึงเกิดโมโหโทสะ รื้อปราสาททิ้ง เหวี่ยงไปคนละทิศละทาง พญาช้างเผือกดมกลิ่นตามหาลูกสาว อดอาหารและน้ำดื่ม เดินไปถึงยอดเขากิเลนก็สิ้นใจตาย แม้หลายวันก็ไม่เน่าเปื่อย เรื่องรู้ถึงลูกสาวจึงกราบบังคมทูลพระสวามีว่า จะขอทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้บิดา จึงอธิษฐานว่า

“ถ้าบุญมีจริงขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในโลกนี้จงดลบันดาลให้มีเงินมีทองทันตาเห็น” พอเผาพญาช้างเผือกจึงเกิดการปะทุขึ้น ครั้งแรกเป็นเงิน ครั้งที่ 2 เป็นทอง ครั้งที่ 3 เป็นเพชรพลอย ตกเต็มเขากิเลน พระมหากษัตริย์จึงตรัสกับชาวบ้านว่าใครเก็บได้เท่าไร จงเก็บเอาไป ส่วนที่เหลือก็คงอยู่ในเขากิเลนตราบจนถึงทุกวันนี้




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น